พระพุทธรูปปางรำพึง
พระประจำวันศุกร์ เป็นพระปางรำพึง โดยคำว่า “รำพึง” ตรงกับความหมายว่า ครุ่นคิด ตรึกตรอง ใคร่ครวญถึงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งในครั้งนั้น เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว ก็ทรงคิดพิจารณาว่าธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งยากที่มนุษย์ปุถุชนจะรู้ตามได้ จึงเกิดความท้อพระทัยคิดจะไม่สั่งสอนชาวโลก ร้อนถึงท้าวสหัมบดีพรหมได้มากราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม โดยทูลว่าในโลกนี้ยังมีบุคคลที่มีกิเลสเบาบางสามารถฟังธรรมของพระองค์เข้าใจได้อยู่ พระองค์จึงทรงรำพึงถึงธรรมเนียมพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ปางก่อน ว่าตรัสรู้แล้วย่อมแสดงธรรมโปรดสัตว์เพื่อประโยชน์สุขแก่โลก จึงทรงเปลี่ยนพระทัยและเห็นชอบที่จะเสด็จออกไปแสดงธรรมแก่คนทั้งปวงตามคำอาราธนานั้น
ประวัติ พระประจำวันศุกร์
เมื่อตปุสสะ และภัลลิกะ ๒ พานิช กราบทูลลาไปแล้วพระพุทธองค์เสด็จกลับจากร่มไม้ราชายตนะ ไปประทับเสวยวิมุตติสุข ณ ร่มไม้อชลปาลนิโครธอีกครั้งหนึ่ง และทรงรำพึงถึงธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วนั้นว่า เป็นธรรมประณีตละเอียดสุขุมคัมภีรภาพ ยากที่บุคคลจะรู้ได้ทำให้ท้อแท้พระทัย ถึงกับทรงดำริจะไม่แสดงธรรมแก่มหาชน
ครั้งนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมทราบวาระจิตของพระพุทธองค์ จึงร้องประกาศชวนเทพดาทั้งหลาย พากันไปเฝ้าพระพุทธองค์ยังที่ประทับ ณ ควงไม้อชปาลนิโครธ ถวายอภิวาทแล้วกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ ขอให้ทรงแสดงธรรมโปรดประชาชน เพื่อบุคคลผู้มีธุลีในนัยน์ตาน้อย ทั้งมีอุปนิสัยในอันจะเป็นพุทธสาวก จะได้ตรัสรู้ธรรมบ้าง
พระพุทธองค์ ทรงรำพึงถึงธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ปางก่อนว่า ได้ตรัสรู้แล้วย่อมทรงแสดงธรรมโปรดประชาชนทั้งหลายประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้แผ่ไพศาลเพื่อประโยชน์สุขแก่ปัจฉิมชน ผู้เกิดมาภายหลังแล้วจึงเสด็จปรินิพพาน จึงได้น้อมพระทัยไปในอันแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ในโลกแล้ว ทรงพิจารณาอีกว่า จะมีผู้รู้ถึงธรรมนั้นบ้างหรือไม่ ก็ทรงทราบถึงอุปนิสัยของบุคคลทั้งหลายในโลกนี้ย่อมมีต่างๆกัน คือทั้งประณีต ปานกลาง และหยาบ ที่มีนิสัยดีมีกิเลสน้อยเบาบาง มีบารมีที่ได้สั่งสมอบรมมาแล้ว ซึ่งพอจะตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ก็มีอยู่ ผู้มีอินทรีย์ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิปัญญา กล้าก็มี ผู้มีอินทรีย์อ่อนก็มี เป็นผู้จะพึงสอนให้รู้ได้โดยง่ายก็มี เป็นผู้จะพึงสอนให้รู้ได้โดยยากก็มีเป็นผู้สามารถจะรู้ได้ก็มี เป็นผู้ไม่สามารถจะรู้ได้ก็มี เปรียบเหมือนดอกบัวที่เกิดในน้ำ เจริญในน้ำ น้ำเลี้ยงอุปถัมภ์ไว้บางเหล่ายังจมอยู่ในน้ำ บางเหล่าอยู่เสมอน้ำ บางเหล่าขึ้นพ้นน้ำแล้ว ในดอกบัว ๓ เหล่านั้น ดอกบัวที่ขึ้นพ้นน้ำแล้วนั้นคอยสัมผัสรัศมีพระอาทิตย์อยู่จักบาน ณ เช้าวันนี้ ดอกบัวที่ตั้งอยู่เสมอน้ำ จักบาน ณ วันพรุ่งนี้ดอกบัวที่ยังไม่ขึ้นจากน้ำยังอยู่ภายในน้ำ จักบานในวันต่อๆไป ดอกบัวที่จะบานมีต่างชนิดฉันใด เวไนยสัตว์ที่จะตรัสรู้ธรรมก็มีต่างกันฉันนั้นเหมือนกัน คือ ผู้มีกิเลสน้อยเบาบาง มีอินทรีย์แก่กล้าเป็นผู้ที่จะพึงสอนให้รู้ได้โดยง่าย และอาจรู้ธรรมพิเศษนั้นได้โดยฉับพลัน ผู้มีคุณสมบัติเช่นนั้นเป็นประมาณปานกลาง เมื่อได้รับอบรมในปฏิปทาอันเป็นบุพพภาค จนมีอุปนิสัยแก่กล้าก็สามารถบรรลุธรรมพิเศษนั้นดุจเดียวกัน ผู้มีคุณสมบัติดังกล่าวแต่ยังอ่อน ก็ยังควรได้รับการแนะนำในธรรมเบื้องต่ำต่อไปก่อนเพื่อบำรุงอุปนิสัย เมื่อเป็นเช่นนี้ พระธรรมเทศนาของพระองค์คงไม่ไร้ผล จักยังประโยชน์ให้สำเร็จแก่คนทุกหมู่เหล่า เว้นแต่จำพวกปทปรมะซึ่งมิใช่เวไนย คือ ไม่รับการแนะนำซึ่งเปรียบด้วยดอกบัวอ่อน อันจะเป็นภักษาหารของปลาและเต่าต่อไป
ครั้นพระพุทธองค์ทรงพิจารณาด้วยพระปรีชาญาณ หยั่งทราบเวไนยสัตว์ผู้จะรับประโยชน์ จากพระธรรมเทศนาแล้วก็ทรงอธิฐานพระหฤทัย ในอันจะแสดงธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์และตั้งพุทะปณิธานจะใคร่ดำรงพระชนม์อยู่ จนกว่าจะได้ประกาศพระพุทธศาสนาให้แพร่หลายประดิษฐานให้มั่นคงสำเร็จประโยชน์แก่ชนนิกรทุกหมู่เหล่าต่อไป
พระพุทธจริยาที่ทรงรำพึงถึงธรรมที่จะแสดงโปรดชนนิกรผู้เป็นเวไนยบุคคลนั้นแลเป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า “ปางรำพึง”
พุทธลักษณะพระพุทธรูปปางรำพึง :
พระพุทธรูปปางร พระประจำวันศุกร์ ำพึงพระพุทธรูปในพระอริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกัน ยกขึ้นประทับที่พระอุระ (อก) พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย
ทำไมพระประจำวันศุกร์ จึงเป็นพระปางรำพึง :
เหตุที่พระประจำวันเกิดของคนเกิดวันศุกร์กำหนดเป็นพระปางรำพึง เพราะดาวศุกร์เป็นตัวแทนเกี่ยวกับโลกีย์ ที่ต้องใช้อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด รวมถึงจินตนาการเข้าช่วย แล้วยังพ้องเสียงกับคำว่า “สุข” ที่มักไปในทางโลก รวมถึงการเกี่ยวข้องกับเรื่องศิลปะ บันเทิงด้วย ดังนั้น การที่กำหนดปางรำพึงอันเป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงครุ่นคิดถึงธรรมะที่ทรงตรัสรู้อันเป็นเรื่องทวนกระแสใจของมนุษย์ จึงคล้ายๆกับการคิดในทางตรงกันข้าม เป็นการเตือนให้เราอย่าหลงระเริงไปในทางโลกให้มาก และให้ระลึกถึงหลักธรรมคำสั่งสอนไว้อยู่เสมอ ชีวิตจึงจะมีความสุข
รายชื่อพระพุทธรูปปางรำพึง พระประจำวันศุกร์
- หลวงพ่อพุทธรำพึง วัดถนนสุธาราม อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
- วัดเกาะแก้ว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บทสวดบูชาพระประจําวันศุกร์ แบบย่อ :
(ตั้งนะโม ๓ จบ)
“โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ”
สวด ๒๑ จบ เพื่อเสริมสิริมงคลชีวิต
คาถาบูชาพระประจำวันศุกร์
พิกัด ไหว้พระประจำวันศุกร์ พระพุทธรูปปางรำพึง
พระประจำวันเกิด 7 วัน
ที่มาของประวัติความเป็นมา:
- เว็บไซต์ ฐานข้อมูลศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น - กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
Leave a comment