สวรรค์ 6 ชั้น เทวภูมิเทวดา เรียกว่า ฉกามาพจร

สวรรค์ 6 ชั้น เทวภูมิ ฉกามาพจร สังสารวัฏภูมิ 31 ภูมิ

ฉกามาพจร ดินแดนเทวโลก ภพภูมิเหล่าเทวดาก่อนพรหมภูมิ

สวรรค์ คือภพภูมิอันเป็นที่อยู่ของเทวดา เป็นเทวโลกที่อยู่อาศัยของกายละเอียด ที่เรียกว่า ฉกามาพจร เป็นภพภูมิอันมีแต่ความสุข สมบูรณ์ด้วยทิพยสมบัติต่างๆ ซึ่งสวรรค์มีทั้งหมด 6 ชั้น ผู้ที่จะไปจุติบนสวรรค์ได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ประกอบบุญกุศลอันดีงาม

ทางพุทธศาสนา เรื่องคติจักรวาลวิทยา ฉกามาพจร คือสวรรค์ 6 ชั้นที่ยังเกี่ยวข้องกับกาม หรือ สวรรค์ที่อยู่ในกามภูมิ เมื่อนับรวมกับภพภูมิของมนุษย์ (มนุษยภูมิ) จะเรียกว่า กามสุคติภูมิ 7 คือ ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ นิมมานรดีภูมิ  ดุสิตาภูมิ ยามาภูมิ ดาวดึงส์ภูมิ จาตุมหาราชิกาภูมิ และมนุษยภูมิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ สังสารวัฏ 31 ภูมิ ส่วน ฉกามาพจร เป็นสวรรค์ 6 ชั้นที่อยู่ในกามภูมิ คือ สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สวรรค์ชั้นนิมมานรดี สวรรค์ชั้นดุสิต สวรรค์ชั้นยามา สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา โดยสวรรค์แต่ละชั้นมีรายละเอียดดังนี้

เทวดาที่เกิดในสวรรค์ 6 ชั้น

บรรดาเทพยดาที่เกิดในสวรรค์ชั้นฉกามาพจร หรือ สวรรค์ 6 ชั้น เทพยดาในสวรรค์ชั้นนี้มี 3 ประเภท คือ สมมุติเทวดา อุปปัติเทวดา และวิสุทธิเทวดา

  1. สมมุติเทวดา ได้แก่ พระราชามหากษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน และพระองค์ทรงรอบรู้หลัก รู้บุญรู้ธรรม ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมทั้งสิบประการ
  2. อุปบัติเทวดา ได้แก่ เทพที่เกิดในแดนสวรรค์ชั้นฟ้า นับตั้งแต่ชั้นฉกามาพจร ไปจนถึงชั้นพรหม
  3. วิสุทธิเทวดา ได้แก่ พระพุทธเจ้าพระปัจเจกโพธิเจ้า พระอรหันตขีณาสพซึ่งได้บรรลุนิพพาน

สวรรค์ชั้นที่ 1 สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

จาตุมหาราชิกาภูมิ หรือสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 เป็นสวรรค์ชั้นแรกจากสวรรค์ 6 ชั้น ไตรภูมิพระร่วงระบุว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาอยู่เหนือมนุษยภูมิ หรือโลกมนุษย์ขึ้นไป 46,000 โยชน์ เป็นแดนสุขาวดี มีเทวราชผู้ยิ่งใหญ่ 4 พระองค์ ทรงเป็นผู้ปกครองดูแล จึงได้ชื่อว่า จาตุมหาราชิกาเทวภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพ มีท้าวจาตุมหาราชทรงเป็นใหญ่ เทวดาทั้งหลายที่อยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกาภูมินี้ เป็นบริวาลภายใต้การปกครองของมหาราชทั้ง 4 หรือที่เราเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล เป็นที่สถิตของเทพบุตร เทพธิดา และเทวดาทั้งหลายที่ยังมีกิเลศ เป็นเทวภูมิชั้นแรกที่อยู่ต่อจากมนุษย์ภูมิขึ้นไป

ลักษณะสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเทวภูมิ เป็นชั้นที่อยู่บริเวณโดยรอบของเขาพระสุเมรุ ตั้งแต่กลางเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงพื้นดินบนโลกที่มนุษย์อาศัยอยู่ มีอาณาเขตแผ่ออกไปจรดขอบจักรวาล แบ่งออกเป็น 4 อาณาบริเวณตามทิศทั้ง 4 ทิศ คือ เขตการปกครองคนธรรพ์ ยักษ์ นาค และผีเสื้อกับกุมภัณฑ์ มีเทวดาผู้เป็นใหญ่ เป็นมหาราชอยู่ 4 องค์ คือ

  1. ท้าวธตรัฏฐะ อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองคนธรรพ์เทวดา
  2. ท้าววิรุฬหกะ อยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครอบกุมภัณฑ์เทวดา
  3. ท้าววิรูปักขะ อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองนาคเทวดา
  4. ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ อยู่ทางทิศเหนือของเขาสิเนรุ เป็นผู้ปกครองยักขเทวดา

ท้าวมหาราชทั้ง 4 หรือท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชา เป็นผู้คุ้มครองรักษาโลกมนุษย์ มีหน้าที่สอดส่องดูแลมนุษย์ที่ประกอบผลบุญแล้วรายงานต่อพระอินทร์ เพื่อให้ได้ไปเกิดในสรวงสวรรค์ เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาภูมินี้ 50 ปีมนุษย์ เท่ากับ 1 วันของเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ


สวรรค์ชั้นที่ 2 สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ดาวดึงส์ภูมิ หรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 ไตรภูมิพระร่วงระบุว่า สวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่เหนือจาตุมหาราชิกาขึ้นไป 46,000 โยชน์ เป็นที่ประทับของพระอินทร์ หรือท้าวสักกะเป็นจอมเทพ และมีบริวารอีก 32 องค์รวมดูแล ซึ่งในอดีตชาติเป็นมาฆมานพเป็นหัวหน้าและสหายอีก 32 คนรวมเป็น 33 เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่บนชั้นดาวดึงส์ ที่ร่วมกันทำความดีด้วยการสร้างถนนสาธารณะ

สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นผืนแผ่นดินผืนแรก ที่เกิดขึ้นในโลกหลังจากโลกนี้ถูกทำลายด้วยน้ำ เมื่อน้ำงวดลง แผ่นดินผืนแรกที่โผล่ขึ้นก่อนแผ่นดินอื่น ๆ ก็คือ ยอดเขาสิเนรุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้

ลักษณะของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวภูมิ เป็นมหเทวนครใหญ่ อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล เหนือเขาสิเนรุราชบรรพต ปรางค์ ปราสาทล้วนแล้วไปด้วยแก้วอันเป็นทิพย์ แวดล้อมรอบเทวนครด้วยปราการกำแพงแก้วทิพย์ อีกเช่นกัน มีประตูกำแพงแก้วถึง 1,000 ประตู เมื่อประตูเหล่านั้นเปิดออกแต่ละครั้ง ปรากฏเสียงดังไพเราะยิ่งนัก ในท่ามกลางเทวนครนั้น มีปราสาทพิมานอันมีชื่อเสียงปรากฏเลื่องลืออยู่วิมานหนึ่ง คือ ไพชยนตปราสาทพิมานมีรูปทรงสูง ประดับไปด้วยแก้ว 7 ประการ งามสุดจะพรรณนา เป็นที่ประทับแห่งท้าวอัมรินทราธิราช

คุณธรรม 7 ประการ ที่ทำให้เป็นพระอินทร์

ผู้ที่ปรารถนาจะเกิดเป็นพระอินทร์ จะต้องหมั่นสร้างบุญกุศลโดยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีคุณธรรม 7 ประการ

  1. เลี้ยงดูบิดา มารดา
  2. เคารพผู้ใหญ่ในตระกูล
  3. กล่าววาจาอ่อนหวาน
  4. ไม่กล่าวคำส่อเสียด
  5. ไม่มีความตระหนี่
  6. มีความซื่อสัตย์
  7. ระงับความโกรธได้

ปัจจุบันพระอินทร์ หรือ ท้าวสักกะเทวราช องค์นี้ ได้สำเร็จโสดาบันแล้ว ด้วยการฟังพระธรรมเทศนาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสักกปัณหสูตร นับเป็นพระอริยบุคคลขั้นแรกในพระพุทธศาสนาและอยู่ในดาวดึงส์ภิภพนี้ต่อไปจนสิ้นอายุขัย

เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว 100 ปีในมนุษย์ เท่ากับ 1 วันบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


สวรรค์ชั้นที่ 3 สวรรค์ชั้นยามา

ยามาภูมิ หรือสวรรค์ชั้นยามา เป็นสวรรค์ชั้นที่ 3 อยู่ในอากาศ ไตรภูมิพระร่วงระบุว่า สวรรค์ชั้นยามาสูงกว่ายอดเขาสิเนรุ 42,000 โยชน์ เป็นภูมิที่สวยงามและประณีตกว่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่สูงกว่าวงโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เป็นสวรรค์ที่พรั่งพร้อมด้วยความสุขที่เป็นทิพย์ ปราศจากความยากลำบากใด ๆ ถึงความสุขอันเป็นทิพย์วิมาน และทิพยสมบัติก็ปราณีตมาก

ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นยามาภูมิ คือ พระสยามเทวธิราช หรือเรียกว่า พระสุยามะ หรือ ท้าวสุยามะเทวราช ผู้มีอายุยืนถึง 2,000 ปีทิพย์ เทวดาทั้งหลายที่อยู่บนสวรรค์ชั้นยามา นี้ เรียกว่า ยามา หรือ ยามะ เป็นจำพวกอากาสัฏฐเทวดาจำพวกเดียว เพราะมีวิมานลอยอยู่ในอากาศเป็นที่อยู่ เทวดาที่อยู่ในภูมิสูงขึ้นไปกว่าชั้นนี้ก็ล้วนแต่เป็นอากาสัฏฐเทวดาทั้งสิ้น

เทวดาบนสวรรค์ชั้นยามาภูมิ ล้วนเป็นผู้มีบุญมาก หน้าตางดงามยิ่งนัก มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย เสวยสมบัติอันเป็นทิพย์ตามสมควรแก่อัตภาพ ทิพย์วิมานเป็นปราสาทเงิน ปราสาททอง ปราศจากแสงพระอาทิตย์ และพระจันทร์ เพราะว่าอยู่สูงกว่าพระอาทิตย์ และ พระจันทร์ มีความสว่างอันเกิดจากรัศมีแห่งแก้ว และรัศมีจากกายของเหล่าเทวดาทั้งหลาย ถ้าดอกไม้บานก็จะเป็นกลางวัน ดอกไม้หุบจะเป็นกลางคืน

เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับ สวรรค์ชั้นยามาภูมิแล้ว 200 ปีในมนุษย์ เท่ากับ 1 วันในสวรรค์ชั้นยามา


สวรรค์ชั้นที่ 4 สวรรค์ชั้นดุสิต

ดุสิตาภูมิ หรือสวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นที่ 4 ไตรภูมิพระร่วงระบุว่า สวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงจากสวรรค์ชั้นยามาภูมิ ขึ้นไปเบื้องบนประมาณ 42,000 โยชน์ เป็นแดนสุขาวดี เป็นที่สถิตอยู่แห่งปวงเทวดาทั้งหลาย ผู้ไม่มีความทุกข์ปราศจากความร้อนใจ มีแต่ความแช่มชื่นยินดีอยู่เป็นนิตย์ เป็นภพภูมิที่อยู่ของพระโพธิสัตว์ และผู้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังเป็นที่เกิดของผู้ที่จะเป็นอัครสาวก ก่อนที่จะไปเกิดในดินแดนมนุษยภูมิ หรือโลกมนุษย์ษภูมิ

ดังนั้นเทวดาที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ จึงนับว่าเป็นเทวดาที่ประเสริฐกว่าเทวดาในภูมิอื่น ๆ โดยมีสมเด็จพระสันดุสิตเทวาธิราช ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเทวาธิบดี

เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับสวรรค์ชั้นดุสิตาภูมิแล้ว 400 ปีในมนุษย์ เท่ากับ 1 วันในสวรรค์ชั้นดุสิตาภูมิ


สวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี

นิมมานรดีภูมิ หรือสวรรค์ชั้นนิมมานรดี เป็นสวรรค์ชั้นที่ 5 ไตรภูมิพระร่วงระบุว่าสวรรค์ชั้นนิมมานรดีอยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นดุสิตไป 336,000 โยชน์ เทวภูมินี้เป็นที่สถิตของเหล่าเทวดา ผู้มีความยินดีเพลิดเพลินในกามคุณารมณ์ที่เนรมิตขึ้นได้ตามใจปรารถนาของตนเอง โดยมีเทพเจ้ามเหศักดิ์ ทรงนามว่า สมเด็จท่านท้าวสุนิมมิตเทวาธิราชทรงเป็นอธิบดีผู้ปกครอง จึงได้ชื่อว่า นิมมานรดีภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพอันมีสมเด็จพระนิมมิตเทวาธิราช ทรงเป็นอธิบดี

ลักษณะของสวรรค์ชั้นนิมมานรดีเทวภูมิ มีปราสาทเงิน ปราสาททอง และปราสาทแก้ว ทั้งมีกำแพงแก้ว กำแพงทอง อันเป็นของทิพย์เป็นวิมานที่อยู่ของเหล่าเทวดา พื้นภูมิมีสภาวะเป็นทองราบเรียบเสมอกัน มีสระโบกขรณี และ สวนอุทยานอันเป็นทิพย์สำหรับเที่ยวเล่นสำราญแห่งเหล่าชาวสวรรค์ชั้นนิมมานรดีทั้งหลายเช่นเดียวกับสมบัติทิพย์ในสวรรค์ชั้นดุสิต ต่างกันแต่ว่าทุกอย่างที่นี่มีสภาวะสวยสดงดงามกว่า และประณีตกว่าทิพยสมบัติในดุสิตภูมิ

เทพยดาทั้งหลายในสวรรค์ชั้นนิมมานรดีนี้ มีรูปทรงสวยงามน่าดูยิ่งกว่าชาวสวรรค์ชั้นที่ต่ำกว่าทั้งหลาย มีกายทิพย์ ซึ่งมีรัศมีเปล่งประกายเรืองรองเป็นยิ่งนัก หากเขาเกิดความปรารถนาจะเสวยสุขด้วยกามคุณารมณ์สิ่งใดเขาย่อมเนรมิตเอาได้ตามความปรารถนาแห่งตนทุกสิ่งทุกประการ ไม่มีความขัดข้อง และเดือดเนื้อร้อนใจใด ๆ มีความปรองดองรักใคร่ และได้รับความสุขสำราญถ้วนหน้า


สวรรค์ชั้นที่ 6 สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี

ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ หรือสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เป็นสววรค์ชั้นที่ 6 ประเสริฐที่สุด ไตรภูมิพระร่วงระบุว่า สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีนี้ตั้งอยู่ในอากาศ อยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นนิมมานรดีไป 672,000 โยชน์ สวรรค์ชั้นสูงสุดของแดนสุขาวดี เทวดาในชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมินี้ ทั้งที่เป็นเทพบุตรและเทพธิดา เวลาใดที่ปรารถนาจะเสวยในกามคุณ ก็มีเทวดาที่รู้ใจเนรมิตให้ เมื่อได้เสวยกามคุณสมความปรารถนาแล้ว สิ่งที่เนรมิตมาก็จะสิ้นไป เทวดาชั้นปรนิตมิตวสวัตตีจึงไม่มีคู่ครองประจำเหมือนเทวดาในสวรรค์ชั้นอื่น ๆ

วิมาน ทิพยสมบัติ และร่างกาย ของเทวภูมิชั้นนี้มีความสวยงามประณีต มากกว่าเทวดาในชั้นนิมมานรดี มีอายุยาวกว่าประมาณ 4 เท่า ถือว่าเป็นยอดภูมิ คือ ภูมิที่สูงสุดของเทวดาในเทวภูมิ 6

ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิชั้นนี้ เป็นที่สถิตอยู่ของเหล่าเทพยดาจำพวกมารทั้งหลาย โดยมีสมเด็จพระปรนิมมิตเทวราช และ สมเด็จพระปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช ทรงเป็นอธิบดี จึงได้ชื่อว่า ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ คือ ภูมิที่อยู่แห่งทวยเทพ

อำนาจปกครองมิได้อยู่แต่เฉพาะเทวดาที่อยู่ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมิเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจปกครองทั่วไปถึงสวรรค์ชั้นต่ำลงอีก 5 ชั้นด้วย คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี และมีการปกครองที่แตกต่างจากเทวภูมิอื่น คือแบ่งเป็น 2 แดน อยู่กันฝ่ายละแดน มีเขตแดนกั้นในระหว่างกลาง ต่างฝ่ายต่างอยู่ หากมีกิจจำเป็นจึงจะไปมาหาสู่แก่กัน โดย แดนเทพยดา มีสมเด็จพระปรนิมมิตเทวราช ทรงเป็นพระเทวาธิราชปกครอง และแดนมาร มีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช ปกครอง

เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับ สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมิแล้ว 1,600 ปีในมนุษย์ เท่ากับ 1 วันในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวาวัตตี

ภพภูมิที่สูงขึ้นไปจากเทวภูมิ 6 ชั้น จะเป็นพรหมภูมิ อีก 20 ชั้น จากสังสารวัฏ 31 ภูมิ ซึ่งเริ่มจาก

  • อบายภูมิ 4
  • มนุษยภูมิ 1
  • เทวภูมิ (สวรรค์) 6
  • พรหมภูมิ 20




ที่มาข้อมูลและรูปภาพ:

  • หนังสือไตรภูมิกถา ฉบับรัชกาลที่ 9
  • เว็บไซต์วัชรญาณ ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ
  • เว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (th.wikipedia.org)



เขียนคอมเมนท์

อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ในที่สาธารณะ และเป็นช่องที่จำเป็นต้องใส่