วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดใหญ่ จ.พิษณุโลก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมืองพิษณุโลก
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุหรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก หรือชื่อที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “วัดใหญ่” ตั้งอยู่ที่ ถนนพุทธบูชา ริมฝั่งแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นที่พระอารามหลวงที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของไทยองค์หนึ่ง คือ พระพุทธชินราช ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุงสุโขทัย มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญ ที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลกและมรดกของประเทศไทย

ประวัติวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่)

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย โดยเป็นพระอารามหลวงมาแต่เดิม เพราะได้พบหลักฐานศิลาจารึกสุโขทัยมีความว่า พ่อขุนศรีนาวนำถมทรงสร้างพระทันตธาตุสุคนธเจดีย์

ส่วนในพงศาวดารกล่าวไว้ว่า ” ราวพุทธศักราช 1900 พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก (พระมหาธรรมราชาลิไท) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ทรงมีศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์ศาสนาอื่น ๆ จนแตกฉาน หาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก พระองค์ได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน มีพระปรางค์อยู่กลาง มีพระวิหาร 4 ทิศ มีพระระเบียง 2 ชั้นและทรงรับสั่งให้ปั้นหุ่นหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารทั้ง 3 หลัง”

ต่อมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2458 ปัจจุบันจึงมีชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่)

พระพุทธชินราช พระวิหารหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก
พระพุทธชินราช พระวิหารหลวง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก

พระพุทธชินราช พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในโลก เนื้อทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก ปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีว่า พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไทย) แห่งราชวงศ์พระร่วง สมัยกรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1900 สันนิษฐานว่า มีการสร้างพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธฺ์ 3 องค์ คือ พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา สำหรับประดิษฐานในพระวิหารทิศ

องค์พระพุทธชินราช นั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงาย พระพักตร์หันไปทางทิศตะวันตก (ด้านริมน้ำน่าน) พระพุทธชินราชมีซุ้มเรือนแก้ว แกะสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทองประดับกระเบิ้อง พระปฤษฎางค์(เบื้องหลัง) มีความปราณีตงดงามอ่อนช้อยช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราช งามเด่น ชัดเจนยิ่งขึ้น พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปศิลปสุโขทัย มีพุทธลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากสุโขทัยดั้งเดิม มีพระเกศรัศมียาวดั่งเปลวเพลิง วงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนผลมะตูมเช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีพระอุณาโลมอยู่ระหว่างพระขนง พระวรกายอวบอิ่มมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ ฝังด้วยแก้ว นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน ฝ่าพระบาทแบนราบค่อนข้างแคบ เมื่อเทียบกับพระพุทธลกักษณะยุคสุโขทัย ส้นพระบาทยาวมีอาฬวกยักษ์และท้าวเวสสุวรรณหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ เฝ้าอยู่ที่พระเพลาเบื้องขวาและซ้ายขององค์

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกมายาวนาน มีบทสวดบูชาพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ที่อยู่ภานในพระวิหารพระพุทธชินราช

พระศรีศาสดา

พระศรีศาสดาองค์ปัจจุบัน ที่ประดิษฐานภายในพระวิหารทิศใต้ ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นพระศรีศาสดาองค์จำลอง ที่เป็นพระพุทธรูปปั้นก่ออิฐถือปูน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงโปรดให้สร้างขึ้นใหม่แทน พระศรีศาสดาองค์เดิม และอัญเชิญพระศรีศาสดาองค์จริง(องค์เดิม) ไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร

พระพุทธชินสีห์

พระพุทธชินสีห์องค์ปัจจุบัน ที่ประดิษฐานภายในพระวิหารทิศใต้ ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เป็นพระพุทธชินสีห์องค์จำลอง ที่เป็นพระพุทธรูปปั้นก่ออิฐถือปูน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงโปรดให้สร้างขึ้นใหม่แทน พระพุทธชินสีห์องค์เดิม และอัญเชิญพระพุทธชินสีห์องค์จริง (องค์เดิม) ไปประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จ.กรุงเทพมหานคร

พระเหลือ และพระสาวก

พระเหลือและพระสาวก วิหารน้อย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก
พระเหลือและพระสาวก วิหารน้อย วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก

หลังจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดาแล้วเสร็จ พระยาลิไททรงรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือนำมาหลอมรวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดเล็ก หน้าตัก กว้าง 1 ศอกเศษ เรียกชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระเหลือ” เศษทองยังเหลืออยู่อีกจึงได้หล่อพระสาวกยืนอยู่ 2 องค์ ส่วนอิฐที่ก่อเตาสำหรับหลอมทองในการหล่อพระพุทธรูป นำมารวมกันบนชุกชี (ฐานชุกชี) พร้อมกับปลูกต้นมหาโพธิ์ 3 ต้นลงบนชุกชี เรียกว่า โพธิ์สามเส้า ระหว่างต้นโพธิ์ได้สร้างวิหารน้อยขึ้นมา 1 หลัง อัญเชิญพระเหลือกับสาวกเข้าไปประดิษฐานอยู่ เรียกว่า พระเหลือ

โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสถาปัตยกรรมอื่นๆ ภายในวัด

พระวิหารหลวง (พระวิหารพระพุทธชินราช)

พระวิหารหลวง (พระวิหารพระพุทธชินราช) เป็นพระวิหารเป็นทรงโรง เป็นพระวิหารหลวงที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช  ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งในโลก ตัวพระวิหารพระพุทธชินราช สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และได้รับการบูรณะให้มีสภาพดีมาตลอดจนถึงสมัยปัจจุบัน พระวิหารหลังนี้จึงเป็นสถาปัตยกรรมสมัยกรุงสุโขทัยที่มีความสง่างามสมส่วน และเป็นโบราณสถานที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

พระวิหารหลวงแห่งนี้ มีบานประตูประดับมุก โบราณที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ตัวบานประตูมุกสร้างขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 2299 สมัยพระเจ้าบรมโกศ และได้ทรงนำบานประตูไม้แกะสลักเดิมไปถวายเป็นบานประตูพระวิหารพระแท่นศิลาอาสน์

พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน

พระวิหารพระเจ้าเข้านิพพาน เป็นพระวิหารขนาดกลาง ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระวิหารพระพุทธชินราช นอกเขตระเบียงคต ภายในประดิษฐานหีบปิดทอง(สมมุติ) บรรจุพระบรมศพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำด้วยศิลาตั้งอยู่บนจิตรากาธาน ประดับด้วยลวดลายลงรักปิดทองร่องกระจกสวยงาม ที่ปลายหีบมีพระบาททั้งสองยื่นออกมา และบริเวณด้านหน้า หรือด้านท้าย หีบพระบรมศพ มีพระมหากัสสปะเถระ นั่งนมัสการพระบรมศพ ซึ่งนับว่าเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญของวัดพระศรีรัตนมหาวรวิหาร โดยผู้สร้างถือคติว่าเป็นการจำลองสังเวชนียสถานของพระพุทธเจ้า ซึ่งคาดว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย

พระวิหารพระอัฏฐารส

พระวิหารพระอัฏฐารส ตั้งอยู่บริเวณหลังพระวิหารพระพุทธชินราช มีพระอัฏฐารส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ สูง 18 ศอก (ประมาณ 10 เมตร) สร้างในสมัยเดียวกับพระพุทธชินราช ในราว พ.ศ. 1800 เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารใหญ่แต่วิหารได้พังไปจนหมด เหลือเพียงเสาที่ก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ 3 – 4 ต้น และเนินพระวิหารบางส่วน เรียกว่า “เนินวิหารเก้าห้อง” ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ทำการบูรณะขุดแต่งทางโบราณคดีในบริเวณที่เรียกว่า “เนินวิหารเก้าห้อง” ซึ่งขุดพบฐานพระวิหารเดิม พระพุทธรูปโบราณ และโบราณวัตถุอีกจำนวนหนึ่ง

ข้อมูลท่องเที่ยว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ่) จ.พิษณุโลก

พิกัดที่ตั้ง พิกัดวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก

ที่ตั้ง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ่) ตั้งอยู่ที่ 92/3 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000

สอบถามรายละเอียดโทร. 055 258 966

การเดินทางเพื่อสักการะ และท่องเที่ยววัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร(วัดใหญ่)

Leave a comment